Menu
สายด่วนบริการลูกค้า : 02-692-8404-12

หน้าแรก / บทความที่น่าสนใจ

สรุปประเด็นการแถลงข่าว ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 7 เมษายน 2563

07/04/2020

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
วันที่ 7 เมษายน 2563 เวลา 11.30 – 12.30 น.
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

     นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วานนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพพลานามัยของประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ โดยได้พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์และพระราชทาน พระบรมราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใจความสำคัญว่า “เรื่องโรคระบาดไม่ใช่ความผิดของใคร สิ่งที่เกิดขึ้นเรามีหน้าที่ที่จะดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด ถ้ามีความเข้าใจในปัญหาและมีความรู้เกี่ยวกับโรค ก็สามารถบริหารจัดการ มีแผนเผชิญเหตุ มีระบบในการปฏิบัติ แก้ไขให้ถูกจุด ขณะเดียวกันต้องให้ประชาชนเข้าใจถึงวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง และเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ ก็จะลดปัญหาได้ ประเทศของเรานับว่าทำได้ดีและก็ทุกคนก็ร่วมใจกัน โดยมีเป้าหมายว่า เราจะต้องต่อสู้ให้โรคนี้สงบลงไปได้ในที่สุด บางทีก็ต้องสละในความสุขส่วนตัวหรือเสียสละในการกล้าที่จะสร้างนิสัยหรือสร้างวินัยในตัวเอง ที่จะแก้ไขเพื่อตัวเอง เพื่อส่วนรวม ขอเป็นกำลังใจให้”
     สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านแล้ว 824 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 1,434 ราย พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 38 ราย สะสม 2,258 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวม 27 ราย ใน 66 จังหวัด โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 54 ปี ไม่มีโรคประจำตัว แต่สังสรรค์หลายแห่ง ทำให้ติดเชื้อโรคโควิด-19 และทางเดินหายใจล้มเหลว ขณะเดียวกันผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ติดเชื้อจากคนในบ้านและติดเชื้อจากคนไทยที่กลับจากต่างประเทศ แม้ตัวเลขการเดินทางเข้าประเทศลดลง เพราะไทยมีคำสั่งห้ามอากาศยานทำการบินเข้าไทยเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 18 เมษายนนี้ แต่ยังเน้นย้ำให้ทุกคนช่วยกัน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”, เว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing), สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ พร้อมชื่นชมผู้ว่าราชการหลายจังหวัดและประชาชนที่ช่วยกันทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ ฯลฯ
      ส่วนการดูแลคนไทยกลับจากต่างประเทศ ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานสายการบิน เพื่อรับคนไทยที่ตกค้างอยู่ในสนามบินต่างประเทศ ล่าสุดมีคนไทยอยู่ที่สนามบินประเทศญี่ปุ่น 15 คน เกาหลีใต้ 60 คน เนเธอร์แลนด์ 1 คน สหราชอาณาจักร 1 คน และกาตาร์ 14 คน ล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย.) คนไทยจากกาตาร์ทั้ง 14 คน เดินทางถึงท่าอากาศยานภูเก็ต เวลา 13.00 น. และจากสหรัฐอเมริกา 60 คน ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 21.45 น. ส่วนวันพรุ่งนี้ (8 เมย.) กลับจากญี่ปุ่น 22 คน ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.30 น. ทุกคนจะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วันในสถานที่ที่ภาครัฐจัดให้ทันที
       ผลการดำเนินงานตามพระราชกำหนดฉุกเฉิน ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมืออย่างดี แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้ฝ่าฝืนที่ออกจากเคหะสถานในช่วงประกาศห้าม เวลา 22.00 น. – 04.00 น. มากถึง 1,217 ราย และมีการรวมกลุ่มชุมนุมหรือมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ 76 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือน 246 รายและดำเนินคดี 1,047 ราย รวม 1,293 ราย เพิ่มกว่า 3 คืนแรก หากตัวเลขยังไม่ลดลง อาจมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนดำเนินการตามมาตรการต่างๆของรัฐบาล เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคนี้ให้ได้